ข่าว

'ชัยชนะ' ซัดเพื่อไทย 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ไม่คืบหน้ามีแต่หา 'แพะรับบาป'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ชัยชนะ' เตือนเพื่อไทย 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ได้ไม่คุ้มเสีย ทิ้งความเสียหายให้ประเทศ ผ่านมา 8 เดือน ไม่คืบหน้ามี แต่หา 'แพะรับบาป'

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราชและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนโยบาย "เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท" ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควรว่า ขณะนี้รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำบริหารประเทศมาเป็นระยะเวลา 8 เดือนแล้ว และชาวบ้านต่างคาดหวังว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีภาพจำว่าเป็นพรรคการเมืองที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ดี จะสามารถทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ผ่านนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่พรรคเพื่อไทยอวดอ้างว่า จะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจถึง 4 ลูก 

แต่ในความเป็นจริงนโยบายดังกล่าวไปเป็น พายุหมุนที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าต่อไปตามที่คาดหวังไว้ และเหมือนกับที่ตนเคยให้ข่าวว่า เป็นนโยบายที่เข้าทำนองว่า "กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง" เพราะพรรคเพื่อไทยคงคิดเอาเองว่า ที่มีคนเลือกพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา คือ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ก็เลยพยายามเดินหน้าโครงการนี้อย่างเต็มที่ 

 

แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจริงๆ แล้ว ปรากฏพบความจริงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจที่ยังสามารถเดินหน้าไปต่อได้ จนทำให้ขุนพลของพรรคเพื่อไทยต้องออกมาพูดกล่อมประสาทประชาชนว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในขั้นวิกฤต จึงจำเป็นต้องมีนโยบายแบบ เงินดิจิทัลวอลเล็ต ความเสี่ยงที่จะกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายว่าด้วยงบประมาณ กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ เป็นต้น 

สำหรับแหล่งเงินทุนซึ่งหวยไปออกที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เป็นหลักนั้น ถือว่า รัฐบาลเกิดอาการเข้าตาจน เพราะอย่าลืมว่า ขณะนี้รัฐบาลยังคงค้างหนี้ในโครงการจำนำข้าวอยู่อีก 2.4 แสนล้านบาท และยิ่งก่อหนี้ตามนโยบายดังกล่าว ซึ่งคาดว่า จะใช้งบ 1.7 แสนล้านบาท รัฐบาลก็จะติดหนี้ ธกส. 4.1 แสนล้านบาท รวมทั้งจะต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาที่ว่า ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ ไม่นับเสียงคัดค้านที่มาจากทุกสารทิศ ที่แสดงความไม่เห็นด้วยต่อโครงการ 

นายชัยชนะ เดชเดโช

โดยส่วนใหญ่ชี้ให้เห็นว่า จะเป็นโครงการที่เข้าทำนอง ได้ไม่คุ้มเสีย และมีนโยบายอื่นๆ ที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่า ดังนั้นตนจึงอยากให้รัฐบาล มีการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประชาชนเสียใหม่ เพราะเชื่อว่า หากดันทุรังไปจนถึงปลายทางแล้ว 

 

พรรคเพื่อไทยอาจจะได้รับความนิยมจนชนะการเลือกตั้งก็จริง แต่ก็ทิ้งความเสียหายให้กับประเทศที่จำนวนมาก ยิ่งเอาเงินจริงไปผูกกับความผันผวนในตลาดเงินดิจิทัลแล้ว ถือเป็นการเอาอนาคตประเทศไปแขวนอยู่กับเส้นด้ายที่บอบบางเป็นอย่างมาก

 

นายชัยชนะ ระบุว่า ความจริงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็มีความคืบหน้าอยู่ แต่เป็นความคืบหน้าในการหา แพะรับบาป เพราะแรกเริ่มเดิมที แพะตัวแรกที่สังเวยไปแล้ว ก็คือ กฤษฎีกา เพราะเมื่อมีความเห็นทางกฎหมายออกมาว่า ต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กลายเป็นว่า มวลชนที่สนับสนุนก็ออกมาโจมตีกฤษฎีกา 

 

ต่อมาก็มีแนวคิดที่จะใช้เวทีรัฐสภาในการออกพระราชบัญญัติ ตนก็รู้ทันทีว่า รัฐบาลจะโยนบาปให้กับ สส. ที่ไม่เห็นด้วยและลงมติไม่เห็นชอบ จะได้มาเป็นข้ออ้างเพื่อให้ประชาชนโกรธแค้น และกลายเป็นแพะรับบาปในสายตาประชาชน

 

ล่าสุด พรรคเพื่อไทยถึงกับเล่นใหญ่ โดยระบุว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งพรรคเพื่อไทยพยายามให้ประชาชนเข้าใจว่า ธปท. เป็นอุปสรรคในการดำเนินนโยบาย ซึ่งจะกลายเป็นแพะรับบาปอีกรายหนึ่ง 

 

นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ราบรื่นนัก เพราะฉะนั้น ตนจึงเห็นว่า การนำสิ่งที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว อย่างเช่น โครงการคนละครึ่ง ที่ชาวบ้านเข้าใจเป็นอย่างดี และก็มีแอป ‘เป๋าตัง’ อยู่แล้ว มาปรับให้เกิดความเหมาะสม เพราะชาวบ้านก็ยืนยันแล้วว่า โครงการคนละครึ่ง สามารถสร้างกำลังซื้อให้เกิดความคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น ส่วนข้อบกพร่องของโครงการคนละครึ่งที่เจ้าของร้านค้าเกรงว่า จะต้องเสียภาษีเพิ่มเติมนั้น รัฐบาลก็ต้องหามาตรการจูงใจให้คลายกังวลเพื่อให้เจ้าของร้านค้ามาร่วมโครงการให้ได้ มากกว่าการคิดโครงการที่หวือหวาให้คนมาลงคะแนนเสียง แต่เสี่ยงที่จะดำเนินการไม่ได้ในทางกฎหมายและข้อปฏิบัติ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ